เกลียดตัวกินไข่ (ร้านโชวห่วย VS ห้างค้าปลีกขนาดยักษ์)
ความหมายตาม สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ให้ความหมาย คำพังเพย "เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง" หมายถึง เกลียดตัวเขา แต่อยากได้ประโยชน์จากเขา เป็นการเปรียบเทียบว่าบางคนไม่ชอบสัตว์บางชนิด เพราะเห็นแล้วขยะแขยง เช่น ตัวเหี้ย เป็นสัตว์เลื้อยคลานที่น่าเกลียด น่ากลัว แต่คนก็กลับชอบไปเอาไข่ของเหี้ยมากิน หรือ ปลาไหลที่ดูเหมือนงู แต่พอคนเขาเอาไปทำอาหาร กลับซดน้ำแกงได้อย่างเอร็ดอร่อย เหมือนคนที่ไม่ชอบใครคนใดคนหนึ่ง แต่กลับไม่รังเกียจที่จะรับผลประโยชน์จากเขา
ร้านโชวห่วย ก็คือ ร้านขายของชำ ที่อยู่คู่สังคมไทยมาแต่เก่าก่อน มีของขายทุกอย่าง ตั้งแต่ถ่าน, ข้าวสาร, ปลากระป๋อง, ยาสระผม, ผงซักฟอก ฯลฯ ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มหดหายไปทุกที ทุกที
ห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ก็คือ ห้างดิสเคานท์สโตร์ ที่ทุก ๆ ท่านคุ้นเคยตาเป็นอย่างดี โดยในยุคแรกเริ่ม ของห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ก็จะมี Makro ที่ทุกคนรู้จัก แต่ 10 ปีให้หลัง ห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ก็มีเพิ่มเติม คือ Big C, Carrefour และ Lotus ซึ่งในห้างนี้ก็มีทุกอย่างครบ มีร้านอาหาร, ที่จอดรถ, ล้างรถ, ห้องน้ำ, ร้านหนังสือ ฯลฯ
แต่ช่วงหลัง ๆ 2 ปีที่ผ่านมา ก็จะพบว่ามีข่าวการรวมตัวของกลุ่มผู้ค้ารายย่อย (ร้านโชวห่วย) ได้รวมตัวทำการต่อต้าน คัดค้าน การเปิดสาขาใหม่ของห้างโลตัส ขอนแก่นบ้าง, โคราชบ้าง เพราะถ้าหากมาเปิดแล้วจะทำให้ร้านค้าโชวห่วยตายหมด เพราะพวกเขาเกรงว่าจะไม่มีคนเข้าไปซื้อของในร้านโชวห่วยของพวกเขา
ช่วงปีการศึกษา 2549 เดือน กรกฎาคม ที่มหาวิทยาลัยที่ผมเรียนอยู่ เขาให้ไปศึกษาพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า ณ ห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ซึ่งผมก็เลือกห้างโลตัส ย่านฝั่งธน เป็นกรณีศึกษา และผมก็ลองไปสอบถาม โดยเลือกพื้นที่ภายนอกห้าง บริเวณแถว ๆ ลานจอดรถ ลานเต้นแอโรบิก พูดคุยกับผู้ที่ซื้อของเต็มคันรถ ชนิดเดียวกัน และเป็นเป็นจำนวนมาก ว่าเขาซื้อไปทำอะไร ก็พบว่า 8 ใน 10 ตัวอย่าง ซื้อไปใส่ร้านค้า (ก็คือร้านโชวห่วย) ถึงแม้ว่าบางรายการที่มีราคาถูกกว่าปกติจะมีการจำกัดปริมาณการซื้อเพื่อเป็นการกระจายสินค้าให้ทั่วถึง เช่น ซื้อได้ไม่เกินครอบครัวละ 3 ชุดบ้าง 5 ชุดบ้าง ก็พบว่ามีการ วนซื้อ ซึ่งทางห้างเขาไม่ได้จำกัดการวนซื้อ
เมื่อได้ผลของการศึกษา ก็นำไปส่งอาจารย์ ณ มหาวิทยาลัย แต่ในสัปดาห์ต่อมา อาจารย์ก็ได้สั่งงานต่อเนื่องอีกงานหนึ่ง คือ ไปสอบถามความคิดเห็น ของร้านโชวห่วยเกี่ยวกับกิจการและผลกระทบจากห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ในย่านที่ตนได้ไปสำรวจมาจากชิ้นงานที่แล้ว ประมาณ 10 ร้าน
ข้าพเจ้าก็เดินทางไปสุ่มตัวอย่างร้านโชวห่วย ย่านฝั่งธน ใกล้โลตัส เท่าที่ไปพูดคุยมา ส่วนใหญ่ก็บอกว่า "คนเข้าร้านน้อยลงมาก เขาหันไปเข้าห้างโลตัสเกือบหมด 7 eleven ก็มาแย่งลูกค้า" ผมก็ลองสอบถามราคา น้ำอัดลม Coke ขนาด 1.25 ลิตร ร้านโชวห่วยขายอยู่ที่ราคา 26-30 บาท ในขณะที่ โลตัส ขายขวดละ 21 บาท บางช่วงก็ขาย 2 ขวด 34 บาท ผงซักฟอกยี่ห้อหนึ่งราคาในโลตัส 31 บาท มาอยู่ในร้านโชวห่วย 40 บาท แต่คำถามที่ผมถามผู้ค้าร้านโชวห่วย ว่าแหล่งที่มาของสินค้าในร้านนี้มาจากไหน ซึ่งจากคำถามก็ทำให้ผู้ค้าโชวห่วยไม่พึงพอใจนัก แต่ก็ตอบแบบไม่อยากจะตอบ ก็มาจากโลตัสนั่นแหล่ะ มันขายถูกดีก็ไปซื้อ
สรุปผลการศึกษา ก็พบความขัดแย้งในตัวเอง ของผลลัพธ์ที่ได้ ทำไมต้องไปต่อต้านห้างค้าปลีกขนาดยักษ์ ทั้งที่ตัวเองก็ไปซื้อของจากเขา แล้วก็มาตั้งราคาสูงกว่า เพื่อหวังผลต่างของราคา ที่ตนซื้อมา กับราคาที่ตนขายไป ซึ่งนั่นก็หมายถึง กำไร
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หากแต่ในภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันนี้ที่ข้าวของราคาขยับตัวสูงขึ้น ไม่ว่าใครต่างก็ต้องประหยัดเงินในการจับจ่ายใช้สอยให้ได้มากที่สุด ก็คงจะมีคำตอบอยู่ในใน ว่าตนจะเลือกซื้อสินค้าทั่วไปจาก ร้านโชวห่วย หรือ ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่
บทความนี้ ได้ทำการเขียนและเรียบเรียงขึ้นเอง มิได้ไปคัดลอกจากที่ไหน โดยทำการเขียน ณ วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2550 เวลา 12:00 น. และมิได้กล่าวโจมตี ฝ่ายหนึ่ง ฝ่ายใด เป็นเพียงเสนอความคิดเห็นเท่านั้น
tkl